การชุบด้วย Physical Vapor Deposition (PVD) และ Chemical Vapor Deposition (CVD) เป็นเทคนิคการเคลือบวัสดุสองวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมครับ ทั้งสองเทคนิคนี้มีแนวทางการทำงานที่แตกต่างกัน และมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันเช่นกัน ข้างล่างนี้คือการเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อแตกต่างระหว่าง PVD และ CVD:
วิธีการทำงาน
PVD: ในการชุบด้วย PVD, วัสดุเริ่มต้น (target) จะถูกกลายเป็นไอ (vaporize) โดยใช้พลังงานในรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงานจากไฟฟ้าหรือพลังงานความร้อน และจากนั้นวัสดุที่กลายเป็นไอนี้จะถูกนำไปเคลือบบนผิวของชิ้นงาน
CVD: วัสดุจะถูกสังเคราะห์และเคลือบบนผิ้นงานโดยใช้ปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นที่ผิวของชิ้นงาน เมื่อสารป้อนเข้ามาในตู้เคลือบแล้วตอบสนองกับผิวงานแบบเคมี
คุณสมบัติของเคลือบ
PVD: ตัวเคลือบมีโครงสร้างที่มีความเข้มแน่นและมีการเคลือบที่สม่ำเสมอ แต่อาจจะมีความบางกว่า CVD ในบางครั้ง
CVD: ตัวเคลือบที่ได้มาจะมีความหนา และสามารถเข้าถึงพื้นผิวที่มีความซับซ้อนหรือที่ยากต่อการเข้าถึงได้
ประยุกต์ใช้:
PVD: มักถูกใช้ในการเคลือบเครื่องมือตัด, ชิ้นส่วนของเครื่องจักร, และอุปกรณ์ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์
CVD: มักถูกใช้ในการผลิตวงจรปิดขนาดเล็ก, แผ่นฟิล์มสำหรับแผงโซลาร์, และในการเคลือบวัสดุที่ต้องการความแข็งแรงในระดับนาโน เช่น ไดมันแบบเต็มที่ (fullerene) หรือกราฟีน
ข้อดีและข้อเสีย
PVD:
ข้อดี: สามารถเลือกวัสดุเคลือบได้หลากหลาย และให้ผลที่สม่ำเสมอ
ข้อเสีย: อาจจะไม่เหมาะกับการเคลือบพื้นผิวที่มีความซับซ้อนหรือมีรูปทรงที่ยากต่อการเข้าถึง
CVD:
ข้อดี: สามารถให้ผลเคลือบที่หนาและเข้าถึงพื้นผิวยากได้
ข้อเสีย: ต้องใช้อุณหภูมิสูงและเงื่อนไขปฏิกิริยาที่เฉพาะเจาะจง
สภาพแวดล้อม
PVD: ปกติจะใช้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า CVD และไม่ต้องการสารเคมีมากนัก
CVD: บางครั้งอาจต้องการสารเคมีที่มีความเป็นพิษและต้องมีการจัดการเศษประกอบเคมีที่เหลืออย่างถูกต้อง
การเลือกว่าจะใช้ PVD หรือ CVD ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละงานเคลือบ รวมถึงความซับซ้อนของผิวที่ต้องการเคลือบ รูปทรงชิ้นงาน และความหนาที่ต้องการในตัวเคลือบ ผู้ผลิตควรพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมตามความต้องการของงานเฉพาะ.
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านควรเลือก PVD หรือ CVD
การเลือกการชุบสำหรับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัสดุของเฟอร์นิเจอร์, รูปแบบการใช้งาน, งบประมาณ, และความต้องการด้านความแข็งแรงหรือความสวยงาม ฯลฯ การชุบด้วย Physical Vapor Deposition (PVD) และ Chemical Vapor Deposition (CVD) อาจไม่เป็นการชุบที่ได้รับความนิยมสำหรับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมากนัก เนื่องจากทั้งสองวิธีนี้มักใช้สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงมาก ต้นทุนสูง และใช้ในอุตสาหกรรมแพร่หลาย
การเลือกว่าจะใช้ PVD หรือ CVD สำหรับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเพราะทั้งสองเทคนิคนี้มักใช้กับงานอุตสาหกรรมและงานที่ต้องการความแข็งแรงมากขึ้น เป็นพิเศษ แต่ถ้าเราสมมติว่าต้องการใช้เทคนิคเหล่านี้กับเฟอร์นิเจอร์ ดังนี้คือข้อพิจารณา:
ความทนทาน: PVD มักให้ผิวที่ทนทานต่อการขีดข่วนและการสึก มันอาจเป็นเลือกที่ดีสำหรับพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความทนทาน
ความหนาและความซับซ้อนของผิว: CVD สามารถเคลือบผิวที่มีรูปทรงซับซ้อนหรือพื้นผิวที่ยากต่อการเข้าถึงได้ ถ้าเฟอร์นิเจอร์ของคุณมีรูปทรงที่ซับซ้อน, CVD อาจเป็นทางเลือกที่ดี
ต้นทุน: ทั้ง PVD และ CVD มักจะมีต้นทุนสูงเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคการเคลือบปกติ หากต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีงบประมาณสูง, การใช้เทคนิคเหล่านี้อาจเป็นทางเลือก
การดูแลรักษา: การเคลือบด้วย PVD หรือ CVD อาจทำให้ผิวของเฟอร์นิเจอร์มีความแข็งแรงขึ้น แต่ยังต้องมีการดูแลรักษาเป็นประจำ
ความสวยงาม: หากต้องการผิวที่มีความเงาสวยงาม หรือเคลือบสีที่เป็นเอกลักษณ์, PVD อาจเป็นทางเลือกที่ดี