การเคลือบสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี (chemical coloring) เป็นกระบวนการที่ใช้สารเคมีเพื่อเปลี่ยนสีของผิวสแตนเลส โดยไม่ต้องใช้สีทาหรือสีพ่น. ขั้นตอนในการเคลือบสีด้วยวิธีนี้จะต่างจากการทำสีด้วยความร้อน (heat tinting).
ขั้นตอนการเคลือบสีด้วยวิธีเคมี:
การเตรียมผิว: ต้องทำความสะอาดผิวสแตนเลสให้สะอาด ล้างสารสกปรก น้ำมัน และฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่ จนถึงการบดผิวหรือการขัดผิว (กระบวนการเตรียมผิวนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการแสดงผลลัพธ์).
การจุ่มแช่: จุ่มสแตนเลสลงในสารเคมีเพื่อทำการเปลี่ยนสี. สารเคมีที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสีและผลลัพธ์ที่ต้องการ.
การล้าง: หลังจากจมปลัก, ต้องล้างผิวสแตนเลสให้สะอาดเพื่อลบสารเคมีที่เหลืออยู่.
การแห้ง: ทำให้ผิวสแตนเลสแห้งด้วยการเป่าลมหรือวิธีอื่น ๆ
ข้อดีของการทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี:
ความหลากหลายของสี: สามารถทำสีต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ.
ความทนทาน: สีที่ได้มีความทนทานต่อการขูดขีดและสภาพแวดล้อม.
ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ: การทำสีด้วยเคมีไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมาก.
ข้อเสียของการทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี:
การใช้สารเคมี: ต้องใช้สารเคมีที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ทำงาน.
การทำความสะอาด: ต้องมีการล้างและทำความสะอาดเป็นพิเศษหลังจากการจุ่มแล้ว.
การควบคุม: ต้องควบคุมเวลา, ความเข้มข้นของสารเคมี, และอุณหภูมิในการจมปลักให้ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ.
เหมือนกับวิธีการทำสีอื่น ๆ การทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมีก็มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา และการตัดสินใจใช้วิธีใดควรพิจารณาตามความต้องการและสภาพการใช้งานของผลิตภัณฑ์.
ตัวอย่างสารเคมีที่ช่วยให้เกิดสีบนสแตนเลส
การทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี (chemical coloring) อาจใช้สารเคมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสีและผลลัพธ์ที่ต้องการ. สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการนี้มักจะเป็นสารประกอบที่สามารถตอบสนองกับสแตนเลสได้, สร้างฟิล์มและสีที่ต้องการบนผิว.
ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางประเภทของสารเคมีที่ใช้ในการเคลือบสีสแตนเลส:
กรดครอมิก (Chromic Acid): เป็นสารเคมีที่มักใช้สำหรับการเคลือบผิวของสแตนเลสเพื่อให้เกิดสีน้ำตาล ถึง ดำ.
กรดซัลฟูริก (Sulfuric Acid): เมื่อใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม สามารถสร้างสีบนผิวสแตนเลสได้.
กรดนิเทริก (Nitric Acid): ที่ความเข้มข้นต่าง ๆ สามารถใช้ทำสีสแตนเลส.
สารประกอบที่มีทั้ง Copper และ Nitrate: สามารถสร้างสีน้ำเงิน ถึง ดำบนผิวสแตนเลส.
สารประกอบที่มีแมงกานีส (Manganese): สามารถใช้สร้างสีน้ำเงิน ถึง ดำบนผิวสแตนเลส.
ทำสแตนเลสสีทอง (Gold) ด้วยวิธีการเคลือบเคมี
กระบวนการทำสีทองบนสแตนเลสมักจะเกิดจากการจุ่มในสารเคมีที่มีฐานเป็น ครอมิก (chromic) และ ซัลฟูริก (sulfuric) acids.
สารประกอบที่เกี่ยวข้องจะถูกเตรียมมาในความเข้มข้นเฉพาะเจาะจงเพื่อให้ได้สีทองที่ต้องการ.
ทำสแตนเลสสีโรสโกล์ด (Rose Gold) ด้วยวิธีการเคลือบเคมี
สีโรสโกล์ดเป็นสีที่มีความซับซ้อนมากกว่าสีทอง และอาจต้องการการผสมสารเคมีหลายประเภทเพื่อให้ได้สีที่ต้องการ.
มักจะใช้การผสมของสารประกอบที่มี ทอง (gold) และ ทองแดง (copper) เป็นฐานเพื่อสร้างสีโรสโกล์ดบนผิวสแตนเลส.
ความยากในการทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี
ควบคุมสี: การผสมสารเคมีในความเข้มข้นที่แม่นยำเพื่อได้สีที่ต้องการอาจเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะสีที่มีความซับซ้อน.
ควบคุมการจุ่ม: การจุ่มเป็นเวลาที่แม่นยำสำคัญเพื่อให้ได้สีที่ต้องการ และการเปลี่ยนแปลงเวลาจุ่มแม้แต่น้อย ๆ ก็อาจส่งผลต่อสีที่ได้.
การจัดการสารเคมี: ต้องมีการจัดการสารเคมีที่ปลอดภัย และการทิ้งของเสียด้วยวิธีที่ถูกต้อง.
ความง่ายในการทำสีสแตนเลสด้วยวิธีการเคลือบเคมี
ปรับเปลี่ยนสีได้: วิธีการเคลือบเคมีนี้อนุญาตให้สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามความต้องการ.
ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ซับซ้อน: ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษหรือเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เช่น เครื่องสเปรย์ที่ใช้กับการพ่นสี.
ทั้งนี้, ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดและความยากง่ายที่กล่าวมา วิธีการเคลือบเคมีนี้ยังเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับการทำสีสแตนเลส เนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำและสามารถทำสีได้ตามความต้องการ.